คนที่เริ่มกินคีโตทุกคนจะต้องเจออาการคีโตฟูล เพราะเมื่อร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม ร่างกายจะใช้กลูโคสเก่าจนหมดและดึงไกลโคเจนในตับและกล้ามเนื้อมาใช้ทำสูญเสียน้ำเพราะไกลโคเจนอุ้มน้ำไว้จำนวนมาก จึงทำให้ช่วงแรกของการกินคีโตน้ำหนักลงเร็วเพราะเกิดจากการสูญเสียน้ำนั่นเองไม่ใช่เพราะลดไขมันได้ ร่างกายไม่ได้สูญเสียแค่น้ำอย่างเดียว แต่สูญเสียเกลือแร่ไปพร้อมกับน้ำด้วยจึงทำให้เกิดอาการคีโตฟลู
ปกติเวลาเป็นคีโตฟลูป้าจะมีอาการแค่ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ และรู้สึกเพลียๆ แต่ครั้งนี้นอกจากไข้คีโตแล้ว ความดันยังขึ้นไปถึง 137/79 ซึ่งปกติความดันป้าจะแค่ 10x/5x-6x เล่นเอาเวียนหัวนั่งไม่อยู่ และอาเจียนเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่เคยอ่านเจอว่าคีโตฟลูจะมีอาการความดันสูงด้วย คีโตฟลูครั้งนี้แปลกมาก
คีโตฟลู
โดยส่วนใหญ่คนที่เพิ่งเริ่มกินคีโต จะเริ่มมีอาการคีโตฟลูประมาณวันที่ 2-3 เพราะวันแรกร่างกายยังมีกลูโคสใช้อยู่ พอกลูโคสในเลือดหมดก็จะเริ่มดึงไกลโคเจนในกล้ามเนื้อมาใช้ ก็จะเริ่มมีอาการคีโตฟลู
อาการคีโตฟลู
- ปวดหัว, มึน, รู้สึกสมองตื้อๆ
- มีไข้ต่ำ ครั่นเนื้อครั้นตัว
- อยากขนม ของหวาน (จะตบะแตกก็ตอนนี้แหละ)
- คลื่นไส้, ท้องไส้ปั่นป่วน
- เพลีย
เกลืออิเล็กโทรไลต์ที่สำคัญคือ โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ซึ่งคนกินคีโตต้องการ
แก้อาการคีโตฟลู
การที่ร่างกายสูญเสียน้ำทำให้สูญเสียเกลือแร่ในร่างกายไปด้วย จึงทำให้เกิดอาการคีโตฟลู เราจึงต้องทดแทนเกลือแร่ (อิเล็กโทรไลต์) ที่สูญเสียไป
- โซเดียม 5,000 มิลลิกรัม (เกลือ 1 ช้อนชา = โซเดียม 2,000 มิลลิกรัม)
- กินน้ำผสมเกลือชมพูตลอดวัน ปริมาณน้ำประมาณ 3 ลิตรขึ้นไป หรือ
- ให้กินอาหารรสเค็มมากขึ้น เพราะโซเดียมมีในเกลือทำอาหารเกลือแกง
- โพแทสเซียม 1,000 มิลลิกรัม
- มีในเกลือโลว์โซเดียม และมีมากในอะโวคาโด ผักโขม คะน้า มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง คะน้า หัวปลี ผักชี ปลาแซลมอน
- แมกนีเซียม 300 มิลลิกรัม มีมากใน ปลา หอย ผักโขม ถั่วต่างๆ (ถั่วกินมากระวังคาร์บเกินโควต้านะ)